๓๐.๑๐.๒๐๐๖
๒๔.๐๐
Villa
รถไฟฟ้า
ดูเหมือนในชีวิตจริงมนุษย์เช่นตัวละครตัวนั้นหรือแม้แต่ตัวข้าพเจ้าเองต้องการปฏิหารมาช่วยดลบันดาลดให้อะไรต่อมิอะไรลงล็อคอย่างที่ปราถนา ข้าพเจ้ามิได้ต้องการอะไรที่มันสูงเทียมฟ้า ข้าพเจ้าต้องการแค่ Basic needs (นิดซ์นึงนะเดี๋ยวเขาจะไม่รู้ว่าอันตัวเรานี้ฟุตฟิดฟอไฟกะเค้าเป็นเหมือนกัน) ธรรมดาๆ แต่เอื้อมไปไม่ถึงซักที อยากแค่เดินไปเรื่อยๆ แล้วมันก็เจอในสิ่งที่เราต้องการ หรือแค่รอแล้วมันก็มาถึงเอง (อะไรจะขี้เกียจปานนั้นกู)
ปฏิหารของพระองค์จะทรงดลบันดาลให้ปัญหาซ้อนทับของข้าพเจ้าปลิดหายไปเมื่อไหร่หรือ? ข้าพเจ้าไม่ใช่ลูกเจ็ก ลูกจีน แต่ข้าพเจ้าก็สู้และดิ้นรนด้วยตนเองเสมอมา หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงแล้ว ข้าพระองค์ย่อมไม่ร้องเรียกปฏิหารจากพระองค์ นั่นไม่ใช่ความหยิ่งผยองแต่อย่างใด หากแต่มันคือวิถีแห่งโลกความเป็นจริง
เธอบอกว่าเธอกินข้าวคนเดียวมา ๒ เดือนแล้ว แล้วในโลกนี้ยังมีหญิงสาวอีกตั้งไม่รู้เท่าไหร่ที่ต้องทนความเปลี่ยวเหงากินข้าวคนเดียวมามากกว่า ๒ ปี
ยังดีหน่อยที่เราอยู่ในฐานะผู้เลือกไม่ใช่ถูกเลือก ข้าพเจ้ารู้สึกเห็นอกเห็นใจเหล่าผู้รอถูกเลือกเหล่านั้นเป็นอันมาก จะต้องทนกินมาม่าไปอีกนานหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เหนือรู้ใต้
ชีวิตหนึ่งชีวิตแม้จะมีวิถีทางและสถานะหลายด้านบรรจบเป็นหนึ่งชีวิตนั้น แต่วิธีการเผชิญปัญหาย่อมสะท้อนจากหลักการอันเดียวที่ยึดมั่นเป็นครรลองของตนเอง ในเมื่อจวบจนปัจจุบันนี้ปี ๒๐๐๙ ข้าพเจ้าเดินทางเผชิญปัญหาด้วยแนวทางไม่รู้ไม่ชี้ เดินไปเรื่อยๆ ด้วยหวังว่ามันจะบรรจบเจอทางออกที่ perfect ที่สุดตามที่พระองค์จะดลบันดาลให้กับชีวิต ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ดังนั้นปัญหาทับซ้อนหลายมิติ ที่เป็นอีกมิติหนึ่งของชีวิตข้าพเจ้า ย่อมจะถูกแก้ไขและผลักดันโดยแนวทางเรื่อยๆ และรอคอยปฏิหารเช่นกัน ซึ่งก็ไม่รู้จะอีกนานมากแค่ไหน
แน่นอนข้าพเจ้ากินมาม่ามามากกว่า ๒ ปี แต่ไฉนเลยข้าพเจ้าถึงเดินไปเรื่อยๆ เพื่อรอปฏิหารก็ไม่ทราบได้ รู้สึกยอมจำนนมานานมาก
ข้าพเจ้าไม่ชอบกินมาม่าหรอก แต่หากมันจะนำมาซึ่งปฏิหารรถไฟฟ้ามาบ้าง ข้าพเจ้าจะทำใจกินไปอีกซักระยะ
ปล. ถ้าอ่านไม่รู้เรื่องก็ลองไปดูหนังเรื่องรถไฟฟ้ามาหาเธอนะมาก่อนนะ
ปล. ไอ้ที่แดงๆ เอาไว้เป็นประโยคที่เขียนเพิ่มเติมขณะที่เอาบันทึกมาลงบล็อก บันทึกต้นฉบับไม่มีประโยคเอาใจคนดูอยากนี้หรอก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น